เวทคืออะไร?
ก็คล้ายกับรูนนั่นแหละ เวทจะเป็นสกิลพิเศษทั่วไปที่ผู้เล่นเลือกมาก่อนเกมจะเริ่มขึ้น ความแตกต่างที่เห็นชัดก็จะเป็นการที่รูนนั้นมอบเอฟเฟกต์ติดตัวให้ในเงื่อนไขบางอย่าง ส่วนเวทจะต้องกดใช้งานเอาเอง หลังจากนั้นก็จะติดคูลดาวน์ไปเลยยาว ๆ การรู้ว่าเวลาไหนที่ใช่ในการใช้เวทที่ทรงพลังเหล่านี้สำคัญมากพอ ๆ กับการรู้ว่าเวทของศัตรูกำลังติดคูลดาวน์อยู่ ดังนั้นพยายามจับตาให้ดีว่าใครใช้อะไรในช่วงตะลุมบอนเพื่อชิงความได้เปรียบในการปะทะครั้งต่อไป
Flash
ย้ายตำแหน่งทันทีเป็นระยะทางสั้น ๆ!
หากคุณไม่ได้เล็งพื้นตำแหน่งตอนใช้ความสามารถนี้ คุณจะเทเลพอร์ตไปให้ไกลที่สุดในทิศทางที่แชมเปี้ยนของคุณกำลังหันหน้าอยู่ ด้วยประสิทธิภาพในการรบทั้งเชิงรุกและเชิงรับ Flash จึงเป็นเวทที่แชมเปี้ยนส่วนใหญ่ควรจะต้องมี
Ghost
วิ่งผ่านให้เร็วดุจสายลม!
นอกจากเร่งความเร็วแล้ว เวทนี้ยังทำให้คุณทะลุผ่านตัวละครอื่นๆ ได้ ดังนั้นไม่ว่าคุณอยากจะเข้าไปกลางดงเพื่อเชือดศัตรูยกทีมหรือหนีตายสุดชีวิตล่ะก็ กดเวทนี้แล้วไม่ต้องห่วงว่าพวกมินเนียนน่ารำคาญจะมาถ่วงแข้งถ่วงขาอีกต่อไป!
Smite
ตะลุยถล่มเหล่าครีปแล้วถล่มพวกมันจนพินาศแหลกเหลวเป็นหน้ากลอง!
*อะแฮ่ม* ก็ตามนั้นแหละ สร้างความเสียหายจริงอย่างมหาศาลกับครีปหรือมินเนี่ยน แต่ที่ดีกว่านั้นคือเราได้รวบรวมเอาความสามารถหลัก ๆ จากไอเทมที่ได้จากการเข้าป่า (ซึ่งคุณจะพบว่าไม่มีอยู่ใน Wild Rift) มารวมกันในเวท Smite ซึ่งตอนนี้จะมาพร้อมกับเวทในฐานะสกิลติดตัว:
- Tooth and Nail การโจมตีมอนสเตอร์ป่าจะสร้างความเสียหายมากกว่าปกติ ทำให้เกิดความเสียหายแบบติดไฟมากขึ้นเรื่อย ๆ และฟื้นพลังชีวิตเล็กน้อยตามระยะเวลา
- Hunting License ได้รับทองโบนัสจากการสังหารมอนสเตอร์ป่าตลอดทั้งเกม แต่มินเนียนจะให้ค่าประสบการณ์น้อยลงในช่วง 5 นาทีแรกของเกม
แต่เดี๋ยวก่อน! ยังมีอีก!
สังหารมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ทั้งสี่ แล้วคุณจะสามารถเลือกอัปเกรดได้จากสองตัวเลือก:
- Chilling Smite สร้างความเสียหายจริงใส่แชมเปี้ยนฝ่ายศัตรูและช่วงชิงความเร็วการเคลื่อนที่บางส่วนมาเป็นเวลา 2 วินาที
- Challenging Smite สร้างความเสียหายจริงใส่แชมเปี้ยนฝ่ายศัตรูและได้รับบัฟเพิ่มพลังเป็นเวลา 5 วินาที
อย่าลืมแล้วกันว่าเวท Smite ฉบับปรับปรุงทุกอันยังคงมีสกิลติดตัวเหมือนกับ Smite™ ตัวต้นแบบอย่างครบถ้วน ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำไปกับเวทที่มีประโยชน์กว่าเก่าแต่ไม่ทิ้งความซาบซ่านของต้นตำรับ!
Barrier
ได้รับโล่ป้องกันขนาดเล็กเป็นเวลาสั้น ๆ!
แล้วก็... เท่านั้นแหละ! แม้ Barrier จะไม่ได้มีประโยชน์หลากหลายเหมือนเวทอื่น ๆ แต่ถ้ามีโล่ป้องกันในยามคับขันก็ย่อมดีกว่าไม่มีอะไรเลย
Exhaust
ลดความเร็วเคลื่อนที่และพลังโจมตีของแชมเปี้ยนศัตรูหนึ่งตัว!
เวทนี้ควรเก็บไว้ใช้กับศัตรูตัวที่สามารถสร้างความเสียหายได้มากที่สุด แต่ก็อย่าลังเลที่จะใช้เวทนี้ในการป้องกันไม่ให้เพื่อนถูกฆ่าหรือปลิดชีพศัตรู!
Heal
รักษาตัวเองและแชมเปี้ยนฝ่ายเดียวกันหนึ่งตัวที่อยู่ในระยะ!
เวทนี้จะเล็งเป้าไปที่เพื่อนร่วมทีมที่มีพลังชีวิตเหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยเร่งความเร็วให้พวกคุณทั้งสองเป็นเวลาสั้นๆ เปิดโอกาสให้คุณเล่นแบบเย้ยความตายที่กำลังไล่ล่าคุณได้ แค่อย่าพยายามสแตคมันก็พอ!แชมเปี้ยนที่เพิ่งได้รับการฮีลจะได้รับเอฟเฟกต์การฟื้นฟูเพียงเล็กน้อยเท่านั้นสำหรับการฮีลครั้งต่อไป จนกว่าสถานะเอฟเฟกต์จะหมดลง
Ignite
ทำให้แชมเปี้ยนศัตรูเป้าหมายเดียว ถูกไฟเผา!
Ignite สร้างความเสียหายสะสมเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระหว่างนั้นเป้าหมายจะได้รับสถานะ Grievous Wounds ซึ่งลดประสิทธิภาพของการฮีลรูปแบบที่ได้รับลง 50% เวทนี้จึงเป็นสุดยอดเวทในการเด็ดหัวเป้าหมายที่มีพลังชีวิตต่ำและเด็ดปีกพวกฮีลเลอร์ที่ฮีลได้แรง ๆ ไปในตัว ยิงไปก่อนค่อยถามเอาทีหลังไง!
แล้วฉันควรเลือกเวทไหนดีล่ะ?
มีแต่คุณเท่านั้นที่เลือกได้!
พยายามจินตนาการว่าในแมตช์ต่อไปคุณจะต้องเผชิญสถานการณ์แบบไหนบ้าง หากศัตรูของคุณมี Flash แล้วคุณไม่มี ศัตรูคนนั้นจะสามารถหนีพ้นมือคุณหรือเข้ามาเชือดคุณได้เมื่อเวทไม่ติดคูลดาวน์หรือเปล่า? คุณมีอะไรไว้ใช้ย่นระยะที่ดีพอ ๆ กันหรือว่าดีกว่าไหมล่ะ? คุณจะมีคู่หูยืนเลนที่จะได้รับอานิสงส์จากเวทฮีลไปด้วยกันหรือเปล่า? ศัตรูมีดูดเลือดปริมาณมหาศาลพอที่จะเอา Ignite ไปหั่นการฮีลนั่นลงครึ่งนึงในจังหวะสำคัญ ๆ รึเปล่า? หากคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้ในขั้นตอนการเลือกแชมเปี้ยน คุณก็อาจจะสบายไปตลอดทั้งเกมในรอบนั้นเลยก็ได้ ดังนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณควรเลือกอะไร แต่อยู่ที่ว่าเลือกเพราะอะไร!
ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีคำตอบใดที่ผิด นั่นล่ะคือเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ Wild Rift เล่นสนุก! บิลด์ที่บ้าคลั่งและทีมที่แหกทุกกฎระเบียบก็สามารถประสบความสำเร็จได้หากอยู่ในมือของคนที่ใช่ ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะทดลองอะไรใหม่ ๆ ใครจะไปรู้? บางทีคุณอาจจะกลายเป็นคนเริ่มเมต้าใหม่ก็ได้นะ!